BR/CR/NBR/EPDM/Viton Rubber
BR/CR/NBR/EPDM/Viton Rubber
ยางBR (BR Rubber) - ยางบิวตาไดอีน (Butadiene Rubber, BR)
คุณสมบัติของ ยางBR (BR Rubber)
- น้ำหนักโมเลกุลเฉลี่ยประมาณ 250,000-300,000
- ความยืดหยุ่น (Elasticity) สูงมาก ทำให้มีการกระเด้งกระดอนสูง ที่สุดในบรรดายางทั้งหมด
- ความทนทานต่อแรงดึง (Tensile Strength) ค่อนข้างต่ำ
- ความต้านทานต่อการขัดถู (Abrasion Resistance) สูงมาก
- การหักงอที่อุณหภูมิต่่า (Low Temp. Flexibility) ดีมาก ประมาณ -112 °C
- อายุการใช้งาน (Aging Properties) เสื่อมสภาพในสภาวะที่มีออกซิเจน โอโซน หรือแสงแดด
- อุณหภูมิการใช้งาน (Temp. Service) -70 ถึง 75 °C
- ความร้อนสะสมในยางต่ำ
- ทนต่อน้ำมันหรือตัวทำละลายที่ไม่มีขั้ว
ลักษณะการใช้งานโดยทั่วไปของ ยางBR (BR Rubber)
ส่วนใหญ่ใช้ในอุตสาหกรรมยางล้อ เพราะเป็นยางที่ มีความต้านทานต่อการขัดถูสูง และมักถูกนำไปทำไส้ในลูกกอล์ฟและลูกฟุตบอลเนื่องจากมีสมบัติด้านการกระเด้งตัวที่ดี
ยางCR (CR Rubber) - ยางคลอโรพรีน (Chloroprene Rubber, CR) ชื่อทางการค้าคือ
ยางนีโอพรีน (Neoprene)
คุณสมบัติของ ยางCR หรือ ยางนีโอพรีน (CR Rubber/Neoprene Rubber)
- มีความทนต่อการฉีกขาดและขัดถูสูง
- ความเหนียวติดกัน (Track) ดี ไม่เกิดรอยต่อในผลิตภัณฑ์ที่ประกอบจากหลายชิ้นส่วน
- ความทนทานต่อแรงดึง (Tensile Strength) ค่อนข้างสูง
- ทนต่อเปลวไฟ (Flammability) ได้ดี เป็น Self-Extinguish คือสามารถหยุดไฟได้เอง
- ความสามารถในการทนน้ำมันและสารเคมี (Oil & Chemical Resistance) ปานกลาง ถึง ดี แต่ไม่ทนต่อน้ำมันเชื้อ
- เพลิง ไฮโดรคาร์บอน ฟอสเฟต เอสเทอร์ คีโตน อัลดีไฮด์ และ ตัวทำละลายไฮโดรคาร์บอน
- อายุการใช้งาน (Aging Properties) ทนต่อสภาพอากาศ ความร้อน โอโซน
- อุณหภูมิการใช้งาน (Temp. Service) -40 ถึง 100 °C
ลักษณะการใช้งานโดยทั่วไปของ ยางCR หรือ ยางนีโอพรีน (CR Rubber/Neoprene Rubber)
เนื่องจากคุณสมบัติด้านการทนไฟ ทนต่อสารเคมีและน้ำมัน จึงนิยมนำมาใช้เป็น ยางซีล ยางสายพานลำเลียงในเหมืองแร่ เป็นต้น
ยางNBR (NBR Rubber) - ยางไนไตรล์ (Nitrile or Acrylonitrile-Butadiene Rubber, NBR)
คุณสมบัติของ ยางNBR (NBR Rubber)
- คุณสมบัติเด่นคือทนต่อน้ำมันปิโตรเลียม และตัวทำละลายที่ไม่มีขั้วต่างๆ ได้ดี
- ความยืดหยุ่น (Elasticity) ต่ำกว่ายางธรรมชาติ
- ความทนทานต่อแรงดึง (Tensile Strength) ต่ำกว่า ยางธรรมชาติ 7-10 เท่า
- ความต้านทานต่อการขัดถู (Abrasion Resistance) ค่อนข้างดี
- การหักงอที่อุณหภูมิต่ำ (Low Temp. Flexibility) ไม่ดี
- อายุการใช้งาน (Aging Properties) ทนต่อสภาพอากาศ ความร้อนได้ดี
- อุณหภูมิการใช้งาน (Temp. Service) -40 ถึง 120 °C
ลักษณะการใช้งานโดยทั่วไปของ ยางNBR (NBR Rubber)
ส่วนใหญ่จะถูกใช้ในผลิตภัณฑ์ที่ต้องสัมผัส น้ำมัน ทนต่อความร้อน และต้านทานต่อการขัดถู เช่น ปะเก็นน้ำมัน ยางโอริง ยางซีล เป็นต้นEPDM - ยางเอทิลีนพรอพิลีนไดอีน (Ethylene-Propylene Diene Monomer, EPDM)
คุณสมบัติของ ยางEPDM (EPDM Rubber)
- ความยืดหยุ่น (Elasticity) มีค่าสูงกว่ายางสังเคราะห์ชนิดอื่นๆ แต่ต่ำกว่ายาง ธรรมชาติ
- ความทนทานต่อแรงดึง (Tensile Strength) ค่อนข้างต่ำ
- สมบัติเชิงพลวัต (Dynamic Properties) สมบัติเชิงพลวัตที่ดีมาก และมีความทนทานต่อความล้าสูง โดยเฉพาะในยางที่ได้รับการคงรูปด้วยระบบกำมะถัน
- อายุการใช้งาน (Aging Properties) ทนต่อสภาพอากาศ ความร้อนไอน้ำ โอโซน ออกซิเจน
- ความสามารถในการทนน้ำมันและสารเคมี (Oil & Chemical Resistance) ไม่ทนต่อน้ำมัน หรือตัวทำละลายที่ไม่มีขั้ว
- อุณหภูมิการใช้งาน (Temp. Service) -40 ถึง 150 °C
ลักษณะการใช้งานโดยทั่วไปของ ยางEPDM (EPDM Rubber)
ใช้งานในผลิตภัณฑ์ที่ต้องสมผัสน้ำมัน ทนต่อความร้อน และต้านทานต่อการขัดถู ส่วนมากนิยมในการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ท่อยางเครื่องซักผ้า สายพานลำเลียง แผ่นยางกันน้ำ เป็นต้น
Viton - ยางไวตั้น หรือยางFPM
FPM เป็นยางสังเคราะห์ เป็น fluoroelastomer ที่มีประสิทธิภาพสูงในสภาวะที่มีความร้อนและกรดกัดกร่อนมาก Viton เป็นชื่อทางการค้าของ บริษัท DuPont
คุณสมบัติของ ยางไวตั้น (Viton Rubber)
- ทนต่อน้ำมันได้ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันหล่อลื่น น้ำมันเบนซิน แก๊ส น้ำมันพืช น้ำมันไฮดรอลิก จารบี
- ทนกรดด่างและสารเคมีทุกชนิด
- ทนต่อสภาวะอากาศ
- ทนความร้อนได้สูงตั้งแต่ -40°c ถึง 260°c
- ความแข็ง (Shore A): 60-90
- ทนต่อโอโซน และแสงแดดจัด
- ทนกระแทก
- ต้านทานต่อการขัดถู
- ทนต่อการฉีกขาดได้ดี
- เป็นฉนวนไฟฟ้า
- ทนแรงดัน
- ทนไอน้ำ
- FDA ใช้งานกับอาหารและยาได้
ลักษณะการใช้งานโดยทั่วไปของ ยางไวตั้น (Viton Rubber)
- อุตสาหกรรมยานยนต์ วงแหวนโอริง ซีลน้ำมัน ปะเก็นท่อ
- เครื่องใช้ไฟฟ้า
- งานสารเคมี
- อุตสาหกรรมพลังงาน
- อุตสาหกรรมอากาศยาน
- อุตสาหกรรมอาหาร และยา